วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์


                ถ้าเป็นสมัยก่อนคงต้องคิดหนักในการซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ในแต่ละครั้ง เพราะราคาสูงระดับหลายหมื่นบาท ยิ่งถ้าเป็นโน๊ตบุค ราคาก็เฉียดๆแสน พอถึงเวลาซื้อคอมพิวเตอร์ทีต้องคิดแล้วคิดอีก จนบางทีผ่านไปเป็นเดือนยังไม่ได้ซื้อ

                แต่ในสมัยนี้ราคาถูกกว่าสมัยก่อนมาก อีกทั้งสเปคเครื่องก็สูงขึ้น สวยงามขึ้น กระทัดรัดมากขึ้น ราคาก็ไม่ได้แพงเกินกำลัง เพียงแค่หมื่นเดียวก็เลือกซื้อคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพดีๆได้แล้ว

                การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์นั้นมีทั้งแบบซื้อตามที่ร้านจัดสเปคมาให้ หรือถ้าเรามีความรู็หน่อยจะสั่งสเปคไปแล้วให้ร้านประกอบให้ก็ได้ (กรณีซื้อ Desktop PC)

การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ขอแยกลูกค้าออกเป็น 3 ประเภทดังนี้


1.) บุคคลทั่วไป

                 การใช้งาน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นอิเตอร์เน็ต โปรแกรมเอกสาร รวมความว่าการใช้งานโปรแกรมเบื้องต้นทั้งหมด หากดูแล้วพฤติกรรมการใช้งานมีเพียงเท่านี้ ก็ไม่ต้องคิดมากเลยครับ สิ่งที่ต้องดูมีเพียง ความสวยงาม ราคา และประกันเท่านั้นเอง

ความสวยงาม : เอาสีและรูปร่างตามที่ชอบเลยครับ

ราคา : เลือกร้านที่ราคาที่ถูกที่สุด ของแถมเยอะๆ

ประกันอุปกรณ์ : ส่วนใหญ่ไม่น่าจะต่ำกว่า 1 ปี และอย่าลืมเก็บเอกสารให้ดีด้วย

                 การเลือกซื้อก็อย่าลืมดูร้านที่ดูน่าเชื่อถือ คือดูแล้วไม่น่าจะปิดหายไปง่ายๆ เวลามีปัญหาจะได้มาติดต่อได้ ราคาที่ควรซื้อในปัจจุบัน (พ.ศ. 2556) ไม่ควรเกิน 15,000 บาท

2.) บุคคลทั่วไป เล่นเกมส์ด้วย

                การเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ต้องใช้ทรัพยากรเครื่องสูงมากพอสมควร ไม่เช่นนั้น ทั้งภาพและเสียงอาจจะทำให้เกมส์นั้นหมดสนุก ดังนั้นสิ่งที่ต้องศึกษาสำหรับนักเล่นเกมส์ ก็คือ CPU การ์ดจอ และ RAM ใช้งบประมาณ 15,000-50,000 บาท

CPU : AMD แบบ Quad Core รุ่นไหนก็ได้

RAM : DDR SDRAM 4G

VGA card : ขั้นต่ำ Geforce4

                   หากใครต้องการเน้นภาพสวยเป็นพิเศษสามารถเพิ่มการ์ดจอได้เลย แต่ต้องดูให้ดีว่ารองรับ Main Board เครื่องเราหรือไม่ 

3.) มืออาชีพในด้านคอมพิวเตอร์

                   หากเป็นมืออาชีพในสาขาต่างๆเช่น นักพัฒนาและออกแบบโปรแกรม กราฟฟิกดีไซด์เนอร์  นักออกแบบเกมส์ นักตัดต่อภาพและเสียง คงต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ยิ่งถ้าเป็น Cracker หรือ Hacker ด้วยแล้ว เรียกได้ว่า มีเท่าไหร่ ใส่ไม่ยั้งเลย คาดว่าแต่ละคนคงใช้งบประมาณ ไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท ไปจนถึงหลายแสนบาทเลยทีเดียว

                 การปรับแต่งของมืออาชีพนั้น มักจะไม่ใช้ของธรรมดาตามที่ขายทั่วไป แต่จะนำมาดัดแปลงและปรับแต่งเอง ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น จึงไม่ขอนำสเปคต่างๆมาลง เพราะคนที่จะซื้อคงไม่ต้องเข้ามาอ่านในนี้ เนื่องจากมีความรู้สูงอยู่แล้ว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น